ระบบติดตามพนักงาน ปฏิบัติการในคอนเซ็ปต์ที่เข้าใจไม่ยาก
ระบบติดตามพนักงาน โดยหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการ (License) สำหรับเพื่อการใช้แอปพลิเคชันตามจํานวนบุคลากร ทีมงาน D-WORK จะส่งรายละเอียดการจัดตั้งแอปฯ รวมทั้ง Username Password สำหรับเพื่อการเข้าใช้งานไปให้พนักงานแต่ละคน ติดตั้งและ Log in บนมือถือ ทั้งระบบปฏิบัติงาน iOS และ Android เพื่อจะเข้าสู่ระบบ D-WORK แล้วต่อจากนั้นผู้ดูแลหรือผู้บริหารของหน่วยงานจะสามารถเห็นได้ ระบบติดตามพนักงาน ชัดตําแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของบุคลากรทุกท่านผ่านระบบเว็บมอนิเตอร์ติดตามแบบเรียลไทม์นอกจากนี้นี้ ระบบมอนิเตอร์ติดตามนโมบายแอปพลิเคชันยังสามารถแยกแยะระดับ
การมองเห็นเป็นแต่ละแผนก ให้ผู้ชมแลแต่ละกลุ่มแสดงตัวเฉพาะเจาะจงทีมของตัวเองได้ตามแนวทางของหน่วยงาน โดยสามารถติดตามตรวจตราตําแหน่งของบุคลากรในความดูแล ถ้าพนักงานออกไปนอกเขตพื้นที่ Registered Zone ในระหว่างวันทํางาน ผู้ชมแลระบบจะได้รับการแจ้งเตือนทันที
เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการ GTSติด GPS รถยนต์
ประสบการณ์มากกว่า 8 ปีการันตีด้วยประกาศนียบัตรมากมาย
ทีมวิศวกรชั้นนำระดับประเทศพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
Call Center 24 ชั่วโมง โทรกลับหาลูกค้าทุกสายหากคู่สายเต็ม
ศูนย์บริการมืออาชีพมากกว่า 50 จังหวัด
ให้ลูกค้ามั่นใจสามารถเข้าแก้ไขได้ทุกที่ ผ่านการรับรองกรมการขนส่ง
ออกใบรับรองได้ภายใน 1 ชั่วโมงรับประกันอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน
ภายใต้สัมปทาน 3Gโปรแกรมใช้งานง่ายเพียง 2 คลิ๊กตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
บริการหลังการขายดีเยี่ยม พูดคุยเป็นกันเองไม่ทอดทิ้งลูกค้า
ผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ ทาง NOSTRA ได้มีการนำระบบแพลตแบบฟอร์ม D-WORK ทดสอบบริการดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้กว่า 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ตอนนี้มีองค์กรให้ความสนใจและติดต่อสื่อสารเข้ามาเพื่อ
ที่จะขอทดลองใช้งานทั้งในภาครัฐและเอกชนแล้วกว่า 16 หน่วยงาน นายวิชัยกล่าวทิ้งท้ายนอสตร้า แมพ (NOSTRA Map) แอปพลิเคชันแผนที่นำทาง โดยบริษัท โกลบเทค จำกัด ปรับปรุงแพลตแบบฟอร์มช่วยธุรกิจตรวจทานตําแหน่งของพนักงานในความดูแลขณะ Work From Home ภายใต้ชื่อเรื่อง D-WORK ช่วยประธานทีมให้สามารถตรวจดูตำแหน่งของบุคลากรในความดูแล เพื่อแน่ใจว่าบุคลากรจะปลอดภัย และไกลห่างจากการเสี่ยงออกไปรับเชื้อโรค
COVID-19 ถ้าบุคลากรออกไปนอกเขตพื้นที่ Registered Zone
ในระหว่างวันดำเนินงาน ผู้ชมแลระบบจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันทันที ผลักดันแนวทางการทำ Self – Quarantine กรณีมีบุคลากรที่ถูกจัดอยู่ด้านในหมู่เสี่ยงต่อโรค COVID-19 จำเป็นที่จะต้องกักตัวในพื้นที่ที่ระบุเพื่อ
ที่จะเฝ้าระวังตลอด 14 วัน รองรับวิธีการใช้งานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยผู้ชมแลระบบสามารถปรากฏตำแหน่งที่อยู่เดี๋ยวนี้ของบุคลากรได้ผ่านแอพพลิเคชั่นแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ตอนนี้มีหน่วยงานมีความสนใจทดทดสอบเอาไปใช้งานทั้งในภาครัฐและเอกชนแล้วกว่า 16
หน่วยงานนายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วๆไป บริษัท โกลบเทค จำกัด กล่าวว่า จากเรื่องราวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบไปทั้งโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่ปัจจุบัน หลายๆธุรกิจเริ่มออกมาตรการแบ่งสันปันส่วนพนักงานสามารถจัดการงานได้จากที่บ้าน เพื่อลดการรวมตัวจนกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการรับเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อ จากต้นเหตุดังกล่าวข้างต้น แพลตเอกสาร “D-WORK” ก็เลยถูกปรับปรุงขึ้นเพื่อที่จะเป็นผู้ช่วยธุรกิจ
เพื่อใช้สำหรับเพื่อการติดตามตรวจทานตําแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของพนักงานในความชมแลเวลา Work From Home เพื่อจะให้แน่ใจว่าบุคลากรจะปลอดภัย และห่างไกลจากการเสี่ยงออกไปรับเชื้อโควิด-19 และนำมาซึ่งการทำงานที่มีคุณภาพแม้ว่าจะปฏิบัติงาน ระบบติดตามพนักงาน ดังที่บ้านรายงานของบริษัท Gartner เปิดเผยข้อมูลการพิจารณาบริษัทปริมาณ 239 หน่วยงานขนาดใหญ่ ในปี 2018 พบว่ามีถึง 50% ที่ทำการติดตามอีเมลล์ และโซเชียลเน็ตเวิร์คของบุคลากร เพื่อที่จะให้รู้ดีว่าพนักงานประสบกับผู้ใด หรือจัดแจงพื้นที่ และตอนสำหรับเพื่อการจัดการงานยังไงในแต่ละวัน
ในปีต่อมา บริษัท Accenture กระทำตรวจทานไปยังประธานระดับสูง พบว่า 62% มีการนำเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อการเก็บข้อมูลพนักงาน ซึ่งจำนวนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเป็นจำนวนก่อนวิกฤติ Covid-19 จะเกิดขึ้นและสืบเหตุเพราะการแพร่กระจายของไวรัส Covid-19 ยิ่งส่งผลให้ปริมาณพนักงานที่จำเป็นที่จะต้องจัดการงานที่บ้านเสริมเติมสูงขึ้นเป็นความเป็นมาการณ์ นำมาซึ่งการทำให้หน่วยงานควรต้องมานะทุ่มเทสำหรับเพื่อการติดตามรูปแบบการทำงานของพนักงานให้
กำเนิดความสามารถสูงสุด หลายหน่วยงานเกรงว่าจะเสียประสิทธิภาพสำหรับในการทำงาน และส่งผลต่อผลประสมการของหน่วยงาน จึงมีการใช้งานเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีเป็นจำนวนมากในการเก็บข้อมูลบุคลากร เช่น การเจาะจงตัวตน การเก็บข้อมูลแป้นพิมพ์ หรือการเก็บข้อมูลตำแหน่งของพนักงานผ่าน GPS อย่างเช่น บริษัท Hubstaff
ใช้การจับภาพจอบุคลากรแบบสุ่มโดยบุคลากรแต่ละคนถูกจับรูป 1 2 หรือ 3 ครั้งใน 10 นาที ตามแต่ผู้จัดการจะเฉพาะเจาะจง หรือบริษัท Teramind กระทำบันทึกการใช้แป้นพิมทั้งหมดทั้งมวลของพนักงาน เพื่อจะเอามาเป็นข้อมูลการพิจารณาพฤติกรรมของพนักงาน..อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะสามารถเฟ้นใช้เทคโนโลยีสำหรับในการติดตามรูปแบบการทำงานของบุคลากรได้ไม่ยาก ๆ แต่ก็มีเรื่องที่อาจจะอันตรายที่องค์กรจะถูกฟ้องเรื่องการฝ่าฝืนสิทธิส่วนบุคคลของบุคลากร
การติดตามเฝ้าระวังในใบหน้านี้เป็นการทำลายความวางใจตอนหน่วยงานและพนักงาน ซึ่งบริษัท Accenture เจอว่า พนักงาน 52% เชื่อว่าการจัดการข้อมูลที่ไม่ถูกควรจะเป็นแนวทางการทำลายความวางใจของบุคลากรที่มีต่อหน่วยงาน และมีประธานขั้นสูงเพียง 30% ที่มั่นใจว่าได้นำข้อมูลที่ได้ไปใช้อย่างมี
ความรับผิดชอบหรือคิดถึงสิทธิเฉพาะบุคคลของพนักงานด้วยเหตุผลดังกล่าว พนักงานที่ถูกจับตามมองหรือถูกตรวจทานจะเกิดความกดดัน และมีความหวาดกลัวสำหรับในการโต้โต้แย้งในเรื่องนี้ แต่ก็มีหลากหลายที่ที่บุคลากรมานะจะต่อสู้กับเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งในทางตรงกันข้าม
บางองค์กรหันหลังให้กับขั้นตอนนี้ โดยไปเน้นให้ความสำคัญกับการทำงานที่ผ่านมาโดยรวมของพนักงาน เหตุเพราะมีรายงานว่า 55% ของบุคลากรกลุ่มมินเลเนียล คิดแผนที่จะลาออกจากองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผลผลกำไรขององค์กรมากกว่าเรื่องคน แต่ละหน่วยงานจึงมองว่าการรักษาพนักงานควรเป็นข้อสำคัญที่ควรจะให้ความเอาใจใส่ เพราะการว่าจ้างบุคลากรใหม่หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์การดูแลพนักงานใหม่ มีคุณค่าใช่จ่ายสูง ด้วยเหตุนี้ การใช้เครื่องมือในการติดตามหลัก
การทำงานของบุคลากรควรเป็นไปในรูปแบบของการติดตามเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลพนักงานและเคารพในสิทธิเฉพาะบุคคลของพนักงานด้วยใช้ความระมัดระวังในการจำกัดตัวชี้วัดโดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนในการกำหนด ระบบติดตามพนักงาน ตรวจตราให้แน่ใจว่าสิ่งที่วัดมีความเกี่ยวข้องและมีความจำเป็น อย่างเช่น
การประมาณจำนวนอีเมลล์ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่างานที่ทำนั้นมีคุณภาพ ซึ่งถ้าต้องการตัวชี้วัดที่ถูกต้องแม่นยำและมีคุณภาพควรให้ผู้เกี่ยวพันทั้งหมดของขั้นตอนการเข้ามามีส่วนในการจำกัดตัวชี้วัดตั้งแต่ผู้จัดการ ผู้บังคับบัญชางาน รวมถึงพนักงาน สร้างความโปร่งใสสำหรับเพื่อการตรวจตรา
กระบวนการการเข้าใช้งาน D-WORKสำหรับเพื่อการเข้าใช้งาน
ไปให้บุคลากรแต่ละคน ติดตั้งและ Log in บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งระบบดำเนินการงาน iOS และ Android เพื่อเข้าสู่ระบบ D-WORK หลังจากนั้นผู้ชมแลหรือประธานขององค์กรจะสามารถเห็นได้ชัดตําแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของพนักงานทุกท่านผ่านระบบเว็บไซต์
มอนิเตอร์ติดตามแบบเรียลไทม์นอกจากนี้ระบบมอนิเตอร์ติดตามบนโมบายแอปพลิเคชันยังสามารถแยกแยะลำดับการมองเห็นเป็นแต่ละแผนก ให้ผู้ชมแลแต่ละทีมเห็นจำเพาะทีมของตนเองได้ตามแนวนโยบายของหน่วยงาน ระบบติดตามพนักงาน โดยสามารถติดตามตรวจทานตําแหน่งของพนักงานในความชมแล
หากบุคลากรออกไปนอกเขตพื้นที่ Registered Zone ในระหว่างวันทํางาน ผู้ชมแลระบบจะได้รับการแจ้งเตือนโดยทันที ผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ ทาง NOSTRA ได้มีการนำระบบแพลตฟอร์ม D-WORK ทดลองบริการดังที่กล่าวถึงแล้วได้กว่า 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งได้ผลสำเร็จลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ปัจจุบันมีหน่วยงานมีความสนใจและติดต่อสื่อสารเข้ามาเพื่อขอทดสอบการใช้งานทั้งในภาครัฐและเอกชนแล้วกว่า 16 หน่วยงาน นายวิชัยกล่าวทิ้งท้าทายย
สำหรับ หน่วยงานที่มีความสนใจ แพลตเอกสาร D-WORK สามารถสมัครเป็นสมาชิกขอทดลองจัดตั้งใช้งานแบบให้เปล่า ไม่คิดมูลค่าใดๆ วันนี้ถึง 12 เมษายนนี้ NOSTRA Map ผุดแอปฯ D-WORK ติดตามบุคลากร WFH เรียลไทม์นอสตร้า แมพ ประกาศพร้อมช่วยองค์กรธุรกิจดำเนินงานได้ถึงแม้พนักงาน Work From Home
เดี๋ยวนี้ได้พัฒนาแพลตฟอร์มช่วยธุรกิจตรวจสอบตําแหน่งของพนักงานภายใต้ชื่อ D-WORK ช่วยประธานกลุ่มให้สามารถตรวจดูตำแหน่งของบุคลากรในความชมแล เพื่อที่จะแน่ใจว่าบุคลากรจะไม่มีอันตราย และห่างไกลจากการเสี่ยงออกไปรับเชื้อโรค COVID-19แพลตฟอร์ม D-WORK สามารถรองรับวิธีการใช้งานบนมือถือทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยผู้ดูแลระบบสามารถเห็นตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันนี้ของพนักงานได้ผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง
ปัจจุบันมีหน่วยงานสนใจทดลองใช้ประโยชน์งานทั้งในภาครัฐและเอกชนแล้วกว่า 16 หน่วยงาน NOSTRA Map ผุดแอปฯ D–WORK ติดตามบุคลากร WFH เรียลไทม์วิชัย แสงหิรัญวัฒนา นักบริหารทั่วๆไป บริษัท โกลบเทค จำกัด พูดว่า จากเรื่องราวการกระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่สร้างผลพวงไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ตอนนี้ หลากหลายธุรกิจเริ่มออกมาตรการส่งมอบบุคลากรสามารถทำงานได้ดังที่บ้าน เพื่อจะลดการรวมตัวจนกระตุ้นแล้วส่งผลให้
มีการเกิดการรับเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้ว แพลตฟอร์ม “D–WORK” จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นผู้ที่ช่วยเหลือธุรกิจเพื่อใช้สำหรับเพื่อการติดตามตรวจตราตําแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของบุคลากรในความชมแลขณะ Work From Home เพื่อจะให้แน่ใจว่าบุคลากรจะไม่มีอันตราย และห่างไกลจากการเสี่ยงออกไปรับเชื้อโควิด-19
ด้วยเหตุว่าการเฝ้าติดตามการทำงานอยู่บนเบื้องต้นการรับรู้ของบุคลากรในด้านลบ องค์กรต้องมานะติดต่อสื่อสารให้พนักงานเห็นได้ชัดถึงคุณประโยชน์ในความช่วยเหลือเกื้อกูลให้บุคลากรสามารถจัดการงานได้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากร ยอมรับถึงความไม่บริบูรณ์แบบของบุคลากร
ถึงแม้เป็นบุคลากรที่เป็นคนเก่งก็คงจะไม่สามารถปฏิบัติงานที่สมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลาในโดยยิ่งไปกว่านั้นในยามวิกฤติแบบนี้ ด้วยเหตุว่าคงจะมีข้อตกลงบางอย่างที่นำมาซึ่งการทำให้ไม่สามารถที่จะดำเนินงานได้อย่างเต็มที่เช่น จำเป็นต้องชมแลลูกไปด้วยในช่วงการปฏิบัติงานที่บ้าน ฯลฯ สิ่งที่หัวหน้างานจะทำได้คือการสนทนา
เพื่อจะทำความเข้าใจสถานการณ์ที่บุคลากรเผชิญอยู่ เพื่อที่จะหาเคล็ดวิธีในการช่วยเหลือที่ประดิษฐ์มากยิ่งกว่าการคุมคามหรือวินิจฉัยว่าเป็นพนักงานที่ผลงานแย่ตรวจดูระบบการติดตามให้มั่นใจว่าจะไม่มีกระทบหรือแบ่งแยกพนักงานกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
หน่วยงานควรประกาศใช้แนวทางในการติดตามสนับสนุนบุคลากรสำหรับเพื่อการปฏิบัติการอย่างเท่าเทียม ระบบติดตามพนักงาน ในทุกระดับ ไม่แนะนำให้แบ่งแยกการติดตามเพราะว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชน ยกเว้นมีความสำคัญตัวอย่างเช่น บุคลากรใหม่ที่พึ่งเข้ามาปฏิบัติการและควรจะเป็นการช่วยเหลือเป็นพิเศษ คงจะจะถูกติดตามมากมายยิ่งกว่าพนักงานทั่วๆไป